Thor Ragnarok : ปัจฉิมบทแห่งเทพเจ้าต่างดาวและลิเกอวกาศ
รีวิวภาพยนตร์เรื่องที่ 004
สวัสดีช่วงสายๆบ่ายๆค่ะทุกคน วันนี้ซินเด้มารีวิวภาพยนตร์อีกแล้ว ถึงแม้ว่าการรีวิวภาพยนตร์ของซินเด้มักมีกระแสตอบรับที่ค่อนข้างกริบ แต่ก็ขอบอกเลยว่ายังไม่เข็ดแน่นอน ซินเด้รีวิวเมคอัพ-สกินแคร์มาก็เยอะแล้ว ขอพักสลับไปพูดถึงอย่างอื่นกันบ้าง และการชมภาพยนตร์ก็เป็นอีกหนึ่งชีวิตจิตใจของซินเด้เลย ถ้ามีใครสักคนได้อ่าน ซินเด้ก็อยากจะบอกว่า ขอบคุณมากค่ะ
ในส่วนของภาพยนตร์ที่กำลังจะพูดถึงนี้เป็นเรื่องไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก Thor Ragnarok หรือธอร์กับเกมส์ออนไลน์ที่เร้าใจ ผิด! ธอร์ ศึกอวสานเทพเจ้านั่นเองค่ะ
หลังจากมาร์เวลสตูดิโอได้สร้างภาพยนตร์จักรๆวงศ์ๆอวกาศอย่าง ธอร์ มาแล้วด้วยกันถึง 2 ภาค อันได้แก่ Thor, Thor: The dark world ซึ่งมีทั้งกระแสตอบรีบดี และเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเด๋อด๋าของเรื่องราว ตัวละคร อันขัดแย้งกับแบกกราวน์ของมนุษย์ต่างดาวซึ่งมีวิทยาการล้ำหน้าไปกว่าเรามากไปซะอย่างนั้น
มาภาคนี้ทางสตูดิโอได้ไว้วางใจผกก.หน้าค่อนข้างใหม่ คารมดี ฝีมือจัดจ้านอย่าง Taika Waititi ผกก.ที่มาจากหนังฟอร์มเล็ก ซึ่งถือได้ว่าเขาคนนี้ยังหน้าใหม่กริ๊งสำหรับวงการฮอลิวู้ดอันใหญ่โตนี้มากๆ
ความจี๊ดจ๊าดของธอร์ แร็กนาร็อคส่งผลให้ภาคที่ 3 ฉีกแนวออกมาจากสองภาคแรกอย่างสุดขั้ว ความพยายามดราม่ามัวหม่นมลายหายไปสิ้น เอาแค่เพลงประกอบก็กร้าวใจมากพอแล้ว
เสียงวิจารณ์ Thor ทุกภาคก่อนหน้ามักถูกเสียดสีหรือความเป็นลิเก ("ท่านพ่อ ท่านแม่ พระราชวัง และคนที่คู่ควรบังลังก์") และความเด๋อด๋าอันเปี่ยมล้นสุดจะบรรยาย (ยกตัวอย่างเช่นท่าเหวี่ยงค้อนก่อนบินที่เคยเรียกเสียงหัวเราะ) มาภาคนี้ ผกก.ไทก้าเขาก็เลย เอาว่ะ ไหนๆคนก็แส่สร้องพี่ธอร์แล้ว ก็จับให้มันเด๋อขั้นสุด เด๋อให้พอ สร้าง Mood & Tone เจ็บจี้ด-แสบทรวง ทำให้มันเป็นหนังตลกไปซะเลย ฮึ่ย
เมื่อธอร์กลายเป็นหนังตลกเต็มรูปแบบ
อย่างที่ตัวอย่างหนังก็แสดงให้เราเห็นแล้วว่าเขาจงใจมาทางนี้ แต่ในขณะที่คนดูเช่นเรา ซึ่งเสพย์หนังแมส ซึมซับหนังตลกมาก็หลายเรื่อง กลับพบว่าความจริงแล้วหนังไม่ได้เฮฮาอะไรขนาดนั้น มันขำ แต่ก็ขำแบบตะขิดตะขวงใจ หรืออาจเป็นเพราะประเด็นต่างๆที่ยัดมาในปูมหลังก็เป็นได้
ไม่พูดถึงไม่ได้ ตัวร้ายที่ปังที่สุด'เฮล่า'
แม้ว่าตัวหนังจะรีบเล่าเรื่องรวดเร็วไปหน่อย แต่ก็ยังได้โขว์ความเทพของตัวร้ายออย่าง เฮล่า เทพแห่งความตาย ขอพูดเลยว่าในบรรดาหนังของสตูดิโอมาร์เวล หาได้น้อยมากที่จะมีตัวร้ายโคตรเมพหาตัวจับได้ยากขนาดนี้ โดยเฉพาะนี่คือตัวร้ายหญฺงคนแรกแห่งจักรวาล MCU!
ความปังอีกประการหนึ่งคือได้ขุ่นแม่เคท แบลนเชทท์ (Cate Blanchett) มารับบทเฮล่า เอาแค่ความเป็นเคทก็ส่งให้ตัวละครนี้น่าเกรงขามละ นี่ยังมาทั้งเมคอัพ คอสตูม วิชวลเอฟเฟกต์แสนตระการตา ทำให้ส่งพลังไปอี้ก แค่เห็นขนก็ลุกแล้วอะเอาจริง
เราว่าเว็ทลุคแบบแม่เคทในเรื่องก็สวยอีกแบบนะ เมคอัพก็ดี ดูสวยลึกลับ รวมๆแล้วออกมาปังมาก
สิ่งที่น่าเสียดายที่สุดคือการเพิกเฉยต่อประเด็นที่สามารถนำมาสร้างดราม่าในเส้นเรื่องได้ (ใช่ เรื่องของเฮล่านี่แหละ) แต่กลับปล่อยไว้ รวมถึงการปูแบกกราวด์ที่ค่อนข้างขาดแหว่งและทำเอาคิ้วขมวดไม่หยุด แหม่ ยืดเวลาออกไปอีกหน่อยเพื่อขยี้ดราม่าก็ยังดี นี่เล่นเอาหลายๆท้อปปิคมามัดรวมเกินไปหน่อยหนะจิ
นอกจากเพลงสุดเฟี้ยว เฮล่าสุดปัง เราจะไม่พูดถึงพี่โลกิไม่ได้ ก็อย่างที่รู้ๆกันว่าใครๆก็กรี้ดพี่ตั้ว ศรันยู คนเน้ แต่คาแร็กเตอร์เขาเรียกได้ส่าเป็นอีกหนึ่งไอคอนของภาพยนตร์ธอร์ ไม่มีไม่ได้
ตัวละครโลกิที่พี่ทอมฮิเล่น เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่กลมกล่อมมาก เป็นความไปไกลกว่า 8 มิติ จับต้องได้และมีเสน่ห์ล้นหลาม ใครชอบนังโลกิ บอกเลยรีบตีตั๋วด่วน ภาคนี้ฮีน่ารักโพดๆเลยจย้า
เอ้อ ภาคนี้มี The hulk ด้วย เอาเป็นว่านี่คือตัวชูความฮาอีกตัวหนึ่งในเรื่องนี้แล้วกัน /ไม่ใช่ว่าพี่ไม่ดี แต่พี่ไม่ค่อยเร้าใจ 555
ในขณะที่ตัวละครใหม่อย่าง Valkyrie (วัลคิรี่) เป็นความจี้ดที่ดีงาม ซึ่งถูกเสริมเติมแต่งมาในเรื่องโดยที่เราไม่ได้รู้สึกว่านี่เป็นการดันหรือยัดเยียดให้มีใครอีกคน มีคาแร็กเตอร์ชัดเจนน่าสนใจ แม้จะเพิ่งโผล่มาภาคนี้ แต่ทุกคนกลับรู้สึกว่าวัลคิรี่เป็นทีมของธอร์อย่างแท้จริง
และสุดท้าย..ข้อบกพร่องที่เห็นชัดของเรื่องนี้คือ VFX ที่ยังค่อนข้างลอยและแปร่งๆในหลายๆฉาก ดูไม่เนียน ไม่เรียบร้อยเอาซะเลย บางฉากที่จับมาเล่าเป็นแฟลชแบ็กกลับสวยจนแทบหยุดหายใจ อย่างฉากของกองทัพวัลคิรียกทัพไป มีความงดงามและตราตรึงอย่างมาก
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นส่วนผสมที่ลงตัวของคอมเมดี้-ไซไฟ-แอคชั่น ถือว่ารสชาติแปลกใหม่ แม้จะมีความคลับคล้ายคลับคลาการ์เดี้ยนสักหน่อย แต่ก็ยังอร่อยอยู่ดี ซึ่งของแบบนี้ขอแนะนำให้ทุกคนไปลองด้วยตัวเองที่โรงภาพยนตร์ดีกว่า สำหรับวันนี้ซินดี้เองก็ต้องขอตัวลาไปก่อนแล้ว สวัสดีค่ะ
สวัสดีช่วงสายๆบ่ายๆค่ะทุกคน วันนี้ซินเด้มารีวิวภาพยนตร์อีกแล้ว ถึงแม้ว่าการรีวิวภาพยนตร์ของซินเด้มักมีกระแสตอบรับที่ค่อนข้างกริบ แต่ก็ขอบอกเลยว่ายังไม่เข็ดแน่นอน ซินเด้รีวิวเมคอัพ-สกินแคร์มาก็เยอะแล้ว ขอพักสลับไปพูดถึงอย่างอื่นกันบ้าง และการชมภาพยนตร์ก็เป็นอีกหนึ่งชีวิตจิตใจของซินเด้เลย ถ้ามีใครสักคนได้อ่าน ซินเด้ก็อยากจะบอกว่า ขอบคุณมากค่ะ
ในส่วนของภาพยนตร์ที่กำลังจะพูดถึงนี้เป็นเรื่องไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก Thor Ragnarok หรือธอร์กับเกมส์ออนไลน์ที่เร้าใจ ผิด! ธอร์ ศึกอวสานเทพเจ้านั่นเองค่ะ
THOR RAGNAROK
หลังจากมาร์เวลสตูดิโอได้สร้างภาพยนตร์จักรๆวงศ์ๆอวกาศอย่าง ธอร์ มาแล้วด้วยกันถึง 2 ภาค อันได้แก่ Thor, Thor: The dark world ซึ่งมีทั้งกระแสตอบรีบดี และเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเด๋อด๋าของเรื่องราว ตัวละคร อันขัดแย้งกับแบกกราวน์ของมนุษย์ต่างดาวซึ่งมีวิทยาการล้ำหน้าไปกว่าเรามากไปซะอย่างนั้น
มาภาคนี้ทางสตูดิโอได้ไว้วางใจผกก.หน้าค่อนข้างใหม่ คารมดี ฝีมือจัดจ้านอย่าง Taika Waititi ผกก.ที่มาจากหนังฟอร์มเล็ก ซึ่งถือได้ว่าเขาคนนี้ยังหน้าใหม่กริ๊งสำหรับวงการฮอลิวู้ดอันใหญ่โตนี้มากๆ
ความจี๊ดจ๊าดของธอร์ แร็กนาร็อคส่งผลให้ภาคที่ 3 ฉีกแนวออกมาจากสองภาคแรกอย่างสุดขั้ว ความพยายามดราม่ามัวหม่นมลายหายไปสิ้น เอาแค่เพลงประกอบก็กร้าวใจมากพอแล้ว
เสียงวิจารณ์ Thor ทุกภาคก่อนหน้ามักถูกเสียดสีหรือความเป็นลิเก ("ท่านพ่อ ท่านแม่ พระราชวัง และคนที่คู่ควรบังลังก์") และความเด๋อด๋าอันเปี่ยมล้นสุดจะบรรยาย (ยกตัวอย่างเช่นท่าเหวี่ยงค้อนก่อนบินที่เคยเรียกเสียงหัวเราะ) มาภาคนี้ ผกก.ไทก้าเขาก็เลย เอาว่ะ ไหนๆคนก็แส่สร้องพี่ธอร์แล้ว ก็จับให้มันเด๋อขั้นสุด เด๋อให้พอ สร้าง Mood & Tone เจ็บจี้ด-แสบทรวง ทำให้มันเป็นหนังตลกไปซะเลย ฮึ่ย
เมื่อธอร์กลายเป็นหนังตลกเต็มรูปแบบ
อย่างที่ตัวอย่างหนังก็แสดงให้เราเห็นแล้วว่าเขาจงใจมาทางนี้ แต่ในขณะที่คนดูเช่นเรา ซึ่งเสพย์หนังแมส ซึมซับหนังตลกมาก็หลายเรื่อง กลับพบว่าความจริงแล้วหนังไม่ได้เฮฮาอะไรขนาดนั้น มันขำ แต่ก็ขำแบบตะขิดตะขวงใจ หรืออาจเป็นเพราะประเด็นต่างๆที่ยัดมาในปูมหลังก็เป็นได้
ไม่พูดถึงไม่ได้ ตัวร้ายที่ปังที่สุด'เฮล่า'
แม้ว่าตัวหนังจะรีบเล่าเรื่องรวดเร็วไปหน่อย แต่ก็ยังได้โขว์ความเทพของตัวร้ายออย่าง เฮล่า เทพแห่งความตาย ขอพูดเลยว่าในบรรดาหนังของสตูดิโอมาร์เวล หาได้น้อยมากที่จะมีตัวร้ายโคตรเมพหาตัวจับได้ยากขนาดนี้ โดยเฉพาะนี่คือตัวร้ายหญฺงคนแรกแห่งจักรวาล MCU!
ความปังอีกประการหนึ่งคือได้ขุ่นแม่เคท แบลนเชทท์ (Cate Blanchett) มารับบทเฮล่า เอาแค่ความเป็นเคทก็ส่งให้ตัวละครนี้น่าเกรงขามละ นี่ยังมาทั้งเมคอัพ คอสตูม วิชวลเอฟเฟกต์แสนตระการตา ทำให้ส่งพลังไปอี้ก แค่เห็นขนก็ลุกแล้วอะเอาจริง
เราว่าเว็ทลุคแบบแม่เคทในเรื่องก็สวยอีกแบบนะ เมคอัพก็ดี ดูสวยลึกลับ รวมๆแล้วออกมาปังมาก
สิ่งที่น่าเสียดายที่สุดคือการเพิกเฉยต่อประเด็นที่สามารถนำมาสร้างดราม่าในเส้นเรื่องได้ (ใช่ เรื่องของเฮล่านี่แหละ) แต่กลับปล่อยไว้ รวมถึงการปูแบกกราวด์ที่ค่อนข้างขาดแหว่งและทำเอาคิ้วขมวดไม่หยุด แหม่ ยืดเวลาออกไปอีกหน่อยเพื่อขยี้ดราม่าก็ยังดี นี่เล่นเอาหลายๆท้อปปิคมามัดรวมเกินไปหน่อยหนะจิ
นอกจากเพลงสุดเฟี้ยว เฮล่าสุดปัง เราจะไม่พูดถึงพี่โลกิไม่ได้ ก็อย่างที่รู้ๆกันว่าใครๆก็กรี้ดพี่ตั้ว ศรันยู คนเน้ แต่คาแร็กเตอร์เขาเรียกได้ส่าเป็นอีกหนึ่งไอคอนของภาพยนตร์ธอร์ ไม่มีไม่ได้
ตัวละครโลกิที่พี่ทอมฮิเล่น เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่กลมกล่อมมาก เป็นความไปไกลกว่า 8 มิติ จับต้องได้และมีเสน่ห์ล้นหลาม ใครชอบนังโลกิ บอกเลยรีบตีตั๋วด่วน ภาคนี้ฮีน่ารักโพดๆเลยจย้า
เอ้อ ภาคนี้มี The hulk ด้วย เอาเป็นว่านี่คือตัวชูความฮาอีกตัวหนึ่งในเรื่องนี้แล้วกัน /ไม่ใช่ว่าพี่ไม่ดี แต่พี่ไม่ค่อยเร้าใจ 555
ในขณะที่ตัวละครใหม่อย่าง Valkyrie (วัลคิรี่) เป็นความจี้ดที่ดีงาม ซึ่งถูกเสริมเติมแต่งมาในเรื่องโดยที่เราไม่ได้รู้สึกว่านี่เป็นการดันหรือยัดเยียดให้มีใครอีกคน มีคาแร็กเตอร์ชัดเจนน่าสนใจ แม้จะเพิ่งโผล่มาภาคนี้ แต่ทุกคนกลับรู้สึกว่าวัลคิรี่เป็นทีมของธอร์อย่างแท้จริง
และสุดท้าย..ข้อบกพร่องที่เห็นชัดของเรื่องนี้คือ VFX ที่ยังค่อนข้างลอยและแปร่งๆในหลายๆฉาก ดูไม่เนียน ไม่เรียบร้อยเอาซะเลย บางฉากที่จับมาเล่าเป็นแฟลชแบ็กกลับสวยจนแทบหยุดหายใจ อย่างฉากของกองทัพวัลคิรียกทัพไป มีความงดงามและตราตรึงอย่างมาก
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นส่วนผสมที่ลงตัวของคอมเมดี้-ไซไฟ-แอคชั่น ถือว่ารสชาติแปลกใหม่ แม้จะมีความคลับคล้ายคลับคลาการ์เดี้ยนสักหน่อย แต่ก็ยังอร่อยอยู่ดี ซึ่งของแบบนี้ขอแนะนำให้ทุกคนไปลองด้วยตัวเองที่โรงภาพยนตร์ดีกว่า สำหรับวันนี้ซินดี้เองก็ต้องขอตัวลาไปก่อนแล้ว สวัสดีค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น