ไปดูแล้วมาเม้าท์ Black Panther หนังที่ฮิปสุดในต้นปี 2018
BLACK PANTHER
สวัสดียามค่ำวันศุกร์นะคะทุกคน พบกับซินดี้อีกครั้ง และเช่นเคยวันนี้เราจะมารีวิวหนังกันอีกแล้ว โดยเรื่องนี้เนี่ยเกริ่นไว้ก่อนว่าเพิ่งเข้าฉายเมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา เปิดตัวแรงมาก ซินเด้ก็เป็นหนึ่งคนที่ไปดูเอาวันแรกๆเลย (จริงๆคือไปดูวันพฤหัสที่15 นะ) ขอบอกว่าชอบมากๆเลยยยย ภาพยนตร์ต่างๆในจักรวาล MCU (Marvel Cinematic Universe)ที่ถูกนำมาสร้าง หลังจาก Civil War ก็มีเรื่องนี้แหละที่ซินดี้ชอบเข้าขั้นแบบว่าชอบมากๆ นั่นก็คือ Black Panther
หลายคนคงรู้ว่าซินเด้คนนี้ชอบมาร์เวลมากๆ แต่ก็ไม่ใช่ทุกเรื่องที่ซินดี้จะอวยว่า #ของมันต้องดู ขนาดนี้
เรื่องย่อ
ย้อนกลับไปในภาพยนตร์ Captain America: Civil War เป็นเรื่องแรกที่มีการปรากฎตัวของ Black Panther ทั้งสองรุ่น คือองค์กษัตริย์ทีชาก้า และพระราชโอรสทีชาลา จากประเทศสมมตินามว่าวากันด้า โดยวากันด้าตั้งอยู่ในทวีปแอฟฟริกา ซึ่งในตอนต้นเรื่องของซิวิลวอร์นั้น องค์ทีชาก้าได้ถูกลอบสังหารขณะเข้าร่วมประชุมของสหประชาชาติ ทำให้เจ้าชายทีชาลาต้องตามล้างแค้นคิดบัญชีฆาตกร แล้วก็เป็นเรื่องราวดังที่เห็นจากในภาพยนตร์กัปตันอเมริกา ซิวิลวอร์
ผ่านมา 2 ปี เนื้อเรื่องดำเนินต่อจากเหตุการณ์ตีกันที่สนามบินในเยอรมันเพียงแค่เดือนเดียว เจ้าชายทีชาลากลับมายังวากันด้าเพื่อเข้าพิธีปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ใหม่ ซึ่งในพิธีดังกล่าวเจ้าชายก็ต้องทำการต่อสู้เพื่อพิสูจน์ตนเองว่าจะสามารถขึ้นเป็นพระราชาปกครองดูแลประเทศได้หรือไม่
ด้วยตำแหน่งแบล็คแพนเธอร์นี้ ไม่ใช่เพียงชุดที่ใส่ ทว่าเป็นการสืบทอดพลังและความสามารถ จากรุ่นสู่รุ่น ชุดแบล็คแพนเธอร์ถูกสร้างมาจากโลหะที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก "ไวเบรเนียม" มีคุณสมบัติแข็งแกร่ง ทนทาน ดูดซับและกระจายพลังงาน ซึ่งโลหะชนิดนี้สามารถพบได้ที่เดียวในโลกคือประเทศวากันด้านั่นเอง
อีกอย่างหนึ่งที่นอกจากเส้นเรื่องหลักและเส้นเรื่องรองเป็นของตัวละครในเรื่องแบล็คแพนเธอร์จริงๆก็คืองานสร้างและงานศิลป์ ประเทศวากันด้าที่ถูกตั้งขึ้นมา มีองค์ประกอบที่เพรียบพร้อม ทั้งสถาปัตยกรรมที่มีความฟิวชั่นระหว่างโลกอนาคตและแอฟฟริกันสไตล์ ออกมาได้เลิศเลอ ยังรวมไปถึงเสื้อผ้าหน้าผมที่มีการนำเสนอให้ใกล้เคียงความเป็นท้องถิ่น ในขณะที่ดูดี ดูเก๋ได้ และท้ายที่สุดก็คือวัฒนธรรมที่ตัวหนังสื่อสารออกมา มีความเป็นตัวของตัวเองอยู่สูง มีแบกกราวน์ที่น่าประทับใจ
ทำไมถึงต้องดู?
หลายคนคงตั้งคำถามว่าทำไมเราต้องไปดูเรื่องนี้ หลังจากที่ภาพยนตร์จากมาร์เวลสตูดิโอถูกทำออกมาให้มีแบบแผน-เป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีความตลกโปกฮา ดูแล้วยิ้มอารมณ์ดี มีฉากต่อสู้ที่ดุดัน แต่ไม่ใช่ทั้งหมดในแบล็คแพนเธอร์ จริงอยู่ที่เนื้อเรื่องตั้งอยู่ในแบบแผนและทิศทางตามสไตล์มาร์เวล ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าด้วยการที่ผู้กำกับเลือกที่จะพรีเซนต์ความเป็นยูนิคของประเทศวากันด้า คาร์แร็คเตอร์ตัวละครที่ขายได้ด้วยตัวมันเอง และตัวร้ายที่มีมิติมาก แบล็คแพนเธอร์จึงโดนเด่นจากทุกเรื่อง
ในแง่ของบทภาพยนตร์ แบล็คแพนเธอร์ยังไม่ใช่เดอะเบส ใช่ ตัวหนังมีความซีเรียส มีการสอดแทรกประเด็นให้ขบคิด ซึ่งใส่มามากพอสมควร อาทิ เชื้อชาติและสีผิว การล่าอนาคต เป็นต้น แต่เหมือนกับว่าประเด็นต่างๆไม่ได้ถูกตบ ถูกนวดเฟ้นให้มันไปในทิศทางเดียวกัน อนึ่งมันมีบางอย่างที่นักวิชาการหลายคนเรียกมันว่า ทฤษฎีสมคบคิด ซึ่งยังไม่ได้ถูกพิสูจน์ว่าจริงไหม ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เหมือนบางอย่างก็ใส่มาเพื่อให้รู้ว่ามี แต่ดูไปแล้วก็อุทานว่า For What?
สำหรับซินดี้แล้ว ส่วนตัวมีความชอบการใส่ประเด็นและตบให้มันไปในทางเดียวกันอย่างในภาพยนตร์ Captain America: Winter Soldier
สุดท้ายที่ยังไม่ท้ายสุด ซินดี้ขอการันตีว่าเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้คือเดอะเบสสำหรับ MCU ที่แท้ทรู หากคิดว่าดนตรีที่ปรากฎในเทรลเลอร์ทำให้ทุกคนต้องโยกตาม เพลงประกอบ All the Stars จาก Kendrick Lamar ก็ทำให้โยกเป็นจังหวะได้ยิ่งกว่าเดิม นี่ยังไม่ได้พูดถึงเพลงอื่นที่ติดหูและเจ๋งเป้งอื่นอีกๆ เพลงเขาดีมากจริงๆ
ช่วงวันหยุดนี้ ถ้าเพื่อนๆยังไม่รู้ว่าจะไปไหน การเข้าโรงหนังตีตั๋วไปวากันด้าก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี และสำหรับวันนี้ซินเด้ก็หมดเรื่องที่จะเม้าท์มอยแล้ว ไว้พบกันใหม่ในกระทู้ถัดไป สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น