The Shape of Water โอ้แม่โฉมยงกับเจ้าชายอสูร


  รีวิวภาพยนตร์เรื่องที่  007  









สวัสดีค่ะทุกคน ต้อนรับสู่สัปดาห์ก่อนตรุษจีนและวาเลนไทน์ เย้ เย้ เย้ ซินดี้จะบอกว่าหลังๆมานี่ไม่อินกับวันแห่งความรักเลย วาเลนทงวาเลนไทน์อัลไล๊ ก็คนมันไม่มีคู่ไง มองไปทางไหนเห็นร้านตั่งต่าง สถานที่ตั่งต่าง จัดโปรหรือเซ็ตพื้นที่ให้สำหรับคนมีความรักเขาไปจู๋จี๋กัน บอกตรงๆเลย เบื่ออออ /หยิบไอติมแมกนั่มมากิน

วันนี้ซินเด้ก็มารีวิวภาพยนตร์ อีกแล้ว ตอนแรกกะว่าจะมาพูดถึงเรื่อง Downsizing ก่อน แต่คือเรื่องนั้นมันไม่ค่อยมีอะไร เป็นแนวที่พาคนดูออกมหาสมุทรมากกว่า ซินเด้ก็เลยอ๊ะ รีวิว The shape of water ดีกว่า ไหนก็ดั้นด้นไปดูถึงในเมืองแล้ว จะปล่อยให้หนังมันฉายแล้วจากไปเงียบๆไม่ได้





THE SHAPE OF WATER

ซินดี้แปะตัวอย่างภาพยนตร์ไว้ด้านล่างนี้นะ เผื่อว่าใครอยากชมเทรลเลอร์ก่อนแล้วค่อยมาอ่านก็อาจจะได้อรรถรสที่ดีขึ้น หนังเรื่องนี้เนี่ย ถ้าจำไม่ผิดคือได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 13 สาขา จากเวทีออสการ์ ซึ่งออสการ์มันเป็นรางวัลทางภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่และมีผู้คนจับตามองเป็นอย่างมาก และการที่หนังเรื่องๆหนึ่งถูกเสนอชื่อเข้าชิงทั้ง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม บทภายนตร์ยอดเยี่ยมนั้น มันต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน วันนี้ซินดี้ก็จะมารีวิวความประทับใจหลังชมให้เพื่อนๆได้อ่านกัน



เรื่องย่อ

ภารโรงสาวประจำศูนย์ทดลองทางวิทยาศาสตร์นามว่าไอไลซ่า (Elisa) วันหนึ่งเธอก็ไปป๊ะเข้ากับอมนุษย์ตนหนึ่งซึ่งถูกขังอยู่ในแทงค์น้ำภายในศูนย์ทดลอง หรือเรียกให้เข้าใจง่ายขึ้นว่าพรายน้ำผู้มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ แต่มีครีบและเหงือกหายใจแบบปลา เอไลซ่าเกิดความสนใจและสงสัยต่อสิ่งมีชีวิตนี้จนก่อเกิดเป็นมิตรภาพอันสวยงาม เธอจึงตัดสินใจช่วยเขาให้พ้นจากการถูกขังและทารุณภายใต้ศูนย์ทดลองแห่งนี้




สายหนังดาร์คหรือแฟนตาซีลึกลับ หากให้พูดชื่อผู้กำกับ กิลเลอร์โม เดอ โทโร่ (Guillermo del Toro) คงไม่มีใครไม่รู้จัก หรือจะเป็นภาพยนตร์เรื่อง Pan's Labyrinth (ชื่อไทย: อัศจรรย์แดนฝัน มหัศจรรย์เขาวงกต) ภาพยนตร์สร้างชื่อของกิลเลอร์โม ที่ส่งให้เขาเป็นที่รู้จักในวงกว้าง เชื่อว่าหลายคนคงร้องอ๋อทันที จากประสบการณ์ที่เรามีร่วมกัน ความบีบเค้น ไปจนถึงความโหดร้ายต่อจิตใจหลังชมภาพยนตร์ Pan's Labyrinth จบ มันทำให้เราจดจำหนังเรื่องนี้ไม่รู้เลือนกันเลยทีเดียว

กลับมารอบนี้หลังจากการคร่ำเคร่งทำหนังบล็อกบัสเตอร์อย่าง เฮลบอย แปซิฟิกริม กิลเลอร์โมได้ดึงจิตวิญญาณแห่งความเป็นแฟนตาซีมาใช้อีกครั้งใน The shape of water โดยมีฉากหลังอยู่ในยุคสงครามเย็น ช่วงปี 1962




พอเหตุการณ์ทั้งหมดในเรื่องเกิดในช่วงปีดังกล่าว ทุกอย่างในเรื่องจึงกลายเป็นความวินเทจ ตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผม ฉาก เฟอร์นิเจอร์ รวมไปถึงตัวละครต่างๆ โทนสีของภาพแต่ละช็อตถูกบรรจงถ่ายทอดออกมาให้เหมือนเราหลุดไปอยู่ในยุคสงครามเย็นจริงๆ โดยใช้ความละมุนของการเล่าเรื่อง-ของสีมาดึงให้สถานการณ์ซอฟต์ลง สำหรับใครที่ชอบสไตล์วินเทจจะฟินกับฉากและเสื้อผ้าอย่างมาก




เมื่อลองพิจรณาดีๆจะพบว่าพรายน้ำ หรือพระเอกในร่างอมนุษย์นั้น มีความน่าเกลียดน่ากลัว แต่บทของหนังถ่ายทอดออกมาให้มีความกลมกลืนและเป็นสามัญ เป็นการซุกซ่อนสัญลักษณ์เอาไว้ผ่านพระเอก ซึ่งไม่ใช่คน และนางเอก ผู้ไม่สามารถสื่อสารผ่านทางการพูดได้ ผู้เขียนมองว่ามันแยบยล คมคาย และสวยงาม





ประเด็นที่ถูกสอดแทรกมาภายในเรื่องล้วนสร้างความประทับใจ ทั้ง LGBT ที่ถูกเปิดตัวมาตั้งแต่ตอนต้นเรื่อง การพูดถึงชนชั้น วรรณะ การเหยียดผิว(นิดหน่อย) การกดขี่ทางเพศ และสงครามได้อย่างแยบยล และนำเสนอผ่านเส้นทางความรักของสิ่งมีชีวิตสองคนให้เป็นดั่งต้นเรื่องของเทพนิยายแสนหวานที่ผู้คนชอบกัน เพียงกลับกันจากโฉมงามและเจ้าชายผู้ต้องฟันฝ่าอุปสรค์สัตว์ร้าย เป็นหญิงภารโรงภาระพิการทางการพูดและพรายน้ำรูปงาม ที่ต้องฟันฝ่าคนหน้าตาดีอันมีจิตใจโหดเหี้ยม

บอกตรงๆว่ามันคือความแฟรี่เทลที่ก็ไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่ามันจะเป็นไปในทางนั้นได้ถึงขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะสื่อสารออกมาได้สวยงามขนาดนี้





ซินดี้ขอยกให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นความดีงามเท่าที่ช่วงต้นปี 2018 จะมีได้ เนื้อเรื่องที่ละมุนละไม ภาพสวย ฉากสวยมาก และการพยายามถ่ายทอดประเด็นที่ตั้งอยู่บนความขัดแย้งให้ออกมาเป็นสิ่งสามัญ

ก่อนวาเลนไทน์ปีนี้ The shape of water เป็นสิ่งที่เหมาะสำหรับการชวนคนรัก เพื่อน ครอบครัว ไปชม ถึงแม้มันจะไกล จำกัดโรงโดยมิสนเสียงครวญครางใดๆก็ตาม อยากให้ไปลองดูกัน




**Spoil Alert**

ใครที่กำลังสงสัยว่ามันจะดาร์กไหมนะ เหมือนหลายปีก่อนที่โดนชื่อทางการภาษาไทยของ Pan's Labyrinth หลอก ซินเด้บอกเลยว่าไม่ค่ะ มันหม่น มันเทา แค่นั้น แต่ไม่พาไปสู่ดาร์กไซด์จนใจหวิวขนาดนั้น




ช่วงนี้ชี้แนะ ไม่ใช่ ผิด! ช่วงรีวิวภาพยนตร์ของซินดี้ก็ขอจบลงเพียงเท่านี้ มีข้อสงสัยหรือเรื่องชวนเมาท์ใดๆก็มาคอมเมนท์พูดคุยกันได้ที่ข้างล่างนี้ วันนี้ต้องไปก่อนแล้ว อ๋อ มีตัวอย่างข้างล่างนี้นะ สำหรับวันนี้ก็ต้องขอตัวก่อน สวัสดีค่ะ






ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม